Monday to Saturday - 8:00 -17:30
Bms LiFePo4(3.2V)NMC Li-on(3.7V) Dalyที่ร้านขายรุ่นที่มี (equalization on the same port การทำให้เท่าเทียมกัน)3s -24s
฿368.00
Bms LiFePo4(3.2V)NMC Li-on(3.7V) Dalyทุกรุ่นที่ขายจะมี(equalization on the same port ทำให้เท่าเทียมกัน)3s -24s
– BMS สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียม ฟอสเฟส หรือ LiFePo4 3.2V (ชาร์จเต็ม 3.65V)
-ตัวบอร์ดออกแบบมาให้สามารถใช้ ชาร์จ/ดิสชาร์จ ได้ผ่านสายไฟเส้นเดียวกัน
– สามารถกันน้ำได้
-บอร์ดจะรองรับแรงดันไฟฟ้าและกระแสที่สามารถจ่ายได้ ตามสเปคที่ระบุไว้ในบอร์ด BMS รุ่นนั้นๆ
– ป้องกันการชาร์จเกิน (Over Charge),
– ป้องกันการดิสชาร์จเกิน (Over Discharge)
– ป้องกันการจ่ายกระแสไฟเกิน (Over Current),
– ป้องกันการช๊อต (Short-Circuit),
-ป้องกันอุณภูมิสูงเกิน (Temperature)
BMS ย่อมาจาก Battery Management System หรือ ระบบการจัดการแบตเตอรี่ ทำหน้าที่หลักๆในการ Maintain balance cell battery เพื่ออัดไฟให้เต็มมากที่สุด และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยการวัดสถานะการชาร์จ (SoC) สถานะสุขภาพของเซลล์ (SoH) รวมถึงการตรวจสอบเซ็นเซอร์ต่างๆ (SoF)
BMS จะทำการตรวจสอบขั้นพื้นฐาน คือ การตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าของแต่ละเซลล์ อุณหภูมิของเซลล์ การวัดกระแสความต้านทานต่อเซลล์ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือการจัดการให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
BMS จะมีประสิทธิภาพในการตรวจจับความผิดปกติของความจุที่หายไป ซึ่งจะประเมินจากแรงดันและความต้านทานภายใน จาก 100 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าความจุจะลดลงเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ของแรงดัน BMS จะตรวจสอบต่อความผิดปกติ และความต่างศักย์ระหว่างเซลล์ที่เกิดจากความไม่สมดุลของเซลล์และการเปลี่ยนแปลงความต้านทานภายใน จะคำนวน Coulomb counting ในการควบคุมการเปิด/ปิด ความสมดุลในการชาร์จ (SOC) จะทำงานแปลผันตามความเสื่อมลงของแบตเตอรี่
การประเมิน (SoH)เพื่อการตรวจสอบสุขภาพเซลล์
– Internal resistance / impedance/conductance
– Capacity
– Voltage
– Self-discharge
– Ability to accept a charge
– Number of charge–discharge cycles
การวัดเซ็นเซอร์ (SOF)
วิธีการทำงานของ BMS สังเกตข้อบกพร่องและตรวจสอบจากเซ็นเซอร์เซลล์ที่หลักๆ เช่นการวัดกระแส
ในการต่อวงจรใช้งานมีการประมวลผลจาก ECU เพื่อตรวจสอบไม่ให้จ่ายเกินกว่า Capacity ของแบตเตอรี่สามารถปล่อยได้ โดยการตัด/ต่อ ไปที่ภาคจ่ายไฟ มอสเฟส หรือ คอนแทกเตอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเสียหายต่อวงจรและเซลล์
การวัดอุณหภูมิ
เพื่อป้องกันอุณหภูมิเกินค่ามาตราฐานของแบตเตอรี่ ถ้าเกินจะสั่งหยุดการทำงานทันที เมื่ออุณหภูมิลดลงก็จะเปิดวงจรอีกครั้ง
การวัดแรงดัน
เมื่อต้องการแรงดันไฟ ต้องทำการต่ออนุกรม เช่น
แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน 48V จะต้องต่อ อนุกรม กัน 3.7×13-14S = 48V
ลิเธียมเหล็กฟอสเฟส 48V จะต้องต่อ อนุกรม กัน 3.2V×16S = 48V
*เวลาซื้อ BMS เค้าจะบอกว่าต้องกี่S คือช่องที่สามารถต่ออนุกรมได้ เพื่อจะได้แรงดัน (V)
BMS จะทำการตรวจเซ็คแรงดัน ในเวลาชาร์จ/ดิสชาร์จ เพื่อปรับความสมดุลของแต่ละ (S)
การส่งข้อมูล
เมื่อ ECU ประมวลผมหรือปรับแก้ไข ก็จะส่งข้อมูลต่าง ไปยังอุปกรณ์เชื่อมต่อ เช่น
เครื่องชาร์จ เพื่อตัด/ต่อในการชาร์จ
ECU ของรถ เพื่อบอกถึงสถานะในการทำงาน
สวิทช์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเปิด/ปิด วงจรทางไฟฟ้า
อุปกรณ์ตรวจสอบให้ถูกต้อง ป้องกันความความเสียหาย